หม่อมเจ้าวงศ์ทิพย์สุดา เทวกุล เป็นพระธิดาในสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทววงศ์วโรปการ และหม่อมพุก เทวกุล ณ อยุธยา ประสูติวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ.2437 ทรงศึกษาเบื้องต้นกับมารดาหลวงสารานุประพันธ์ เมื่อชันษาได้ 9 ปี เสด็จเข้าไปอยู่ในพระบรมมหาราชวังในสมเด็จพระบรมราชินีนาถในรัชกาลที่ 5 ทรงเรียนหนังสือกับหม่อมเจ้าหญิงปุก ภายหลังโปรดเกล้าฯให้เข้าเรียนในโรงเรียนราชินี (สมัยนั้นเรียกว่า โรงเรียนสุนันทาลัย)ทรงศึกษาจนจบประโยคมัธยมพิเศษ (มัธยมปีที่ 6)
ทรงเป็นครูอยู่นาน 6 ปีเศษจึงทรงลาออก เพื่อทรงปฏิบัติฉลองพระเดชพระคุณสมเด็จพระชนกจนสิ้นพระชนม์ พ.ศ.2466 จึงทรงกลับเข้ารับหน้าที่เป็นผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่และอาจารย์ผู้ปกครองของทั้งสองโรงเรียน ต่อมา พ.ศ. 2480 หม่อมเจ้าพิจิตรจิราภา ท่านผู้จัดการและอาจารย์ใหญ่ทั้งสองโรงเรียนในขณะนั้นจึงโปรดให้หม่อมเจ้าวงศ์ทิพย์สุดาเป็นอาจารย์ใหญ่โรงเรียนราชินีบนเพียงแห่งเดียวตามพระราชบัญญัติโรงเรียนราษฎร์ที่ออกใหม่ในขณะที่องค์ท่านยังทรงเป็นผู้จัดการทั้งสองโรงเรียน หม่อมเจ้าวงศ์ทิพย์สุดา เทวกุล จึงทรงรับงานอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนราชินีบน เป็นต้นมา ซึ่งครูและนักเรียนราชินีบนเรียกท่านว่า “ท่านอาจารย์” โดยถ้วนหน้ากัน
และเมื่อหม่อมเจ้าพิจิตรจิราภา สิ้นชีพิตักษัยในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2486 ท่านอาจารย์จึงทรงดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั้งสองโรงเรียนอาจารย์ใหญ่โรงเรียนราชินีบนและทรงดำรงตำแหน่งประธานกรรมการราชินีมูลนิธิด้วย
เนื่องจากทรงงานหนัก และรับภาระหลายด้านไม่ได้รับการพักผ่อนเพียงพอทั้งที่มีพระชนม์มากแล้วพระอนามัยทรุดโทรมลงจนประชวรด้วยโรคพระหทัยและประชวรอย่างปัจจุบันทันด่วนเมื่อ 13 กุมภาพันธ์ 2512 แพทย์แนะนำให้ทรงลาออก แต่ยังมิทันจะได้ลาเป็นทางการพระอาการก็ทรุดหนักในวันที่ 4 เมษายน และถึงชีพิตักษัยในวันที่ 6 เมษายน 2512 สิริรวมพระชนมายุได้ 74 ปี 4 เดือน 24 วัน เมื่อยังทรงดำรงพระชนม์อยู่ได้ทรงบำเพ็ญพระกรณียประโยชน์นานัปการสมควรที่พวกเราคณะครูและนักเรียนราชินีบนจะระลึกถึงในความเป็น “ผู้ทรงยึดมั่นในเทวธรรม” สมกับเป็นทายาทแห่งสกุล “เทวกุล” โดยแท้ ดังนั้นทางโรงเรียนจึงถือว่า วันที่ 12 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันสำคัญประจำปีของโรงเรียนวันหนึ่ง เรียกว่า “วันวงศ์ทิพย์” เพื่อระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่านตลอดมา
ดังนั้นทางโรงเรียนจึงถือว่า วันที่ 12 พฤศจิกายนของทุกปีเป็นวันสำคัญประจำปีของโรงเรียนวันหนึ่ง เรียกว่า “วันวงศ์ทิพย์” เพื่อระลึกถึงพระกรุณาธิคุณของพระองค์ท่านตลอดมา